Knowledge

Market Summary 15/3/18

Market view 15/03/2018

 

– ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้
: เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ, โทรคมนาคม และสินค้าเพื่อผู้บริโภคจากจีน
: นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังกดดันให้จีนปรับลดยอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐลง 1 แสนล้านดอลลาร์

1. ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,758.12 จุด ร่วงลง 248.91 จุด หรือ -1.00%
2. ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,749.48 จุด ลดลง 15.83 จุด หรือ -0.57%
3. ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,496.81 จุด ลดลง 14.20 จุด หรือ -0.19%

– ความร้อนแรงของสงครามการค้ายังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยก่อนหน้านี้ ตลาดได้รับผลกระทบจากข่าวที่ว่านายแกรี่ โคห์น ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจสูงสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม

– นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สั่งปลดนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน ได้สร้างความหวั่นวิตกให้กับนักลงทุน
: เนื่องจากก่อนที่นายทิลเลอร์สันจะถูกปลดจากตำแหน่ง เขาได้สนับสนุนให้ปธน.ทรัมป์เข้าพูดคุยกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัดว่าปธน.ทรัมป์จะยอมทำตามข้อเสนอดังกล่าวหรือไม่
: ขณะที่นายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ (CIA) เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ ได้ออกมาแก้ต่างเกี่ยวกับการตัดสินใจของปธน.ทรัมป์
#ส่งผลให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าวิธีทางการทูตอาจไม่ได้ผลสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ

– ปธน.ทรัมป์ ได้เลือกนายแลร์รี่ คุดโลว์ นักวิเคราะห์สายอนุรักษ์นิยมวัย 70 ปี เป็นหัวหน้าที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว หลังจากนายแกรี่ โคห์น ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว
: โดยนางซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า นายคุดโลว์ “ได้รับการเสนอตำแหน่งดังกล่าว และยอมรับตำแหน่งนี้”

– ปธน.ทรัมป์ทวีตข้อความเมื่อคืนนี้ระบุว่า “สหรัฐไม่สามารถเมินเฉยต่อการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรม”
ข้อความในทวิตเตอร์ของปธน.ทรัมป์ระบุว่า “เราไม่สามารถทำเป็นมองไม่เห็นต่อพฤติกรรมการทำการค้าที่ไม่เป็นธรรมอย่างแพร่หลายต่อประเทศของเรา”

– ทางด้านทำเนียบขาวชี้แจงในวันนี้ว่า ปธน.ทรัมป์ได้ทวีตข้อความในวันพุธที่แล้วที่ระบุว่า สหรัฐได้แจ้งให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้ากับสหรัฐ โดยให้ปรับลดลง 1 พันล้านดอลลาร์ในปีนี้
***แต่ที่จริงแล้ว ปธน.ทรัมป์ต้องการบอกให้จีนจัดทำแผนลดตัวเลขเกินดุลการค้า 1 แสนล้านดอลลาร์ ไม่ใช่ 1 พันล้านดอลลาร์

: อย่างไรก็ดี โฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า รัฐบาลสหรัฐต้องการให้จีนบรรลุเป้าหมายดังกล่าวอย่างไร โดยจะเป็นการซื้อสินค้าของสหรัฐเพิ่มขึ้น เช่น ถั่วเหลืองหรือเครื่องบิน หรือไม่ หรือจีนต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายภาคอุตสาหกรรม, ลดเงินอุดหนุนรัฐวิสาหกิจ หรือลดกำลังการผลิตเหล็กและอลูมิเนียม

– กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษแถลงว่า รัฐบาลอังกฤษได้เรียกประชุมฉุกเฉินคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวานนี้ เพื่อรายงานผลการสอบสวนกรณีมีการใช้ก๊าซพิษทำร้ายอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขาเมื่อต้นเดือนนี้

– นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ระบุว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่รัสเซียจะอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่มีการโจมตีนายเซอร์เก สกรีปอล อดีตสายลับรัสเซียที่แปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายอังกฤษ และลูกสาวของเขา ด้วยก๊าซพิษทำลายระบบประสาทในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งทำให้ขณะนี้พวกเขายังคงต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล โดยมีอาการวิกฤต
***นางเมย์ประกาศมาตรการตอบโต้รัสเซียในวันนี้ หลังรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังการใช้ก๊าซพิษทำร้ายอดีตสายลับรัสเซียและลูกสาวของเขา
: ทั้งนี้ นางเมย์ประกาศขับทูตรัสเซียจำนวน 23 คนออกจากสหราชอาณาจักรภายในเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นการขับไล่นักการทูตจำนวนมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี และสหราชอาณาจักรจะไม่ส่งตัวแทนรัฐบาลเข้าร่วมพิธีการแข่งขันฟุตบอลโลกที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพในปีนี้

– บริษัทบรอดคอม ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดัคเตอร์รายใหญ่ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ในสิงคโปร์ ได้ประกาศยกเลิกอย่างเป็นทางการต่อข้อเสนอซื้อกิจการควอลคอมม์ อิงค์ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายชิพโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ระดับโลก
: การประกาศยกเลิกข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวันจันทร์ เพื่อสกัดข้อเสนอซื้อกิจการดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ

– กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า
***ยอดค้าปลีกร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2555 ที่ยอดค้าปลีกลดลง 3 เดือนติดต่อกัน
: ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกปรับตัวลง 0.1% ในเดือนก.พ. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่ปรับตัวลง 0.1% ในเดือนม.ค. โดยยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงในเดือนก.พ. ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของยอดขายรถยนต์

– กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า
***ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนม.ค.
: โดยการดีดตัวขึ้นของดัชนี PPI ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในภาคบริการ
: เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 2.8% หลังจากเพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนม.ค.
: ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.4% เช่นกันในเดือนม.ค.

– นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดย
1. อินโดนีเซียจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนก.พ.
2. มาเลเซียจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนม.ค.
3. ฝรั่งเศสจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ.
4. สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก
4.1 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
4.2 ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ.
4.3 ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)

###ตลาดการเงินจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 มี.ค.
: ขณะที่ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 86% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งเป็นครั้งแรกในปีนี้ และมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ในเดือนมิ.ย. และครั้งที่ 3 ในเดือนก.ย.

… 📰🗞📰🗞📰🗞📰🗞📰🗞…
CR.RYT9

credit : zuzatrader

You Might Also Like

No Comments

Leave a Reply